วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Person of Interest เมื่อ Batman ไม่ได้มีแค่ Gotham







“ผู้คนไม่เป็นเหมือนอย่างที่เราคิดเสมอไปหรอก”

       
…....................




      เมื่อพูดถึงหนังหรือซีรีย์แนวที่ผมชอบแล้วก็คงไม่พ้นแนวสืบสวนสอบสวนเป็นแน่แท้ เพราะว่าเนื้อเรื่องแนวนี้นั้นมักจะสามารถกระตุ้นความสนใจของผู้ชมได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีปมปริศนาลึกลับๆหรือปริศนาที่ยากๆโผล่มามักจะทำให้เราสนใจเรื่องนี้และติดตามมันต่อๆไปเรื่อยๆ เหมือนยาเสพติด แต่นอนนอนว่ามันคุ้มค่าที่เราจะตามมันต่อ

      เมื่อพูดถึงซีรีย์สืบสวนที่ดังและเป็นที่นิยมแล้วก็คงต้องนึกถึง CSI เป็นแน่แท้ เพราะว่ารายนี้เขาทำมาหลายปีแล้ว ซีซั่นต่างๆก็มีอีกหลายซีซํ่น เพราะเนื้อเรื่องที่เป็นหน่วยสืบสวนคอยแก้ปริศนาการฆาตกรรมในเมืองต่างๆ แต่ละคดีก็ดูเหมือนจะยากเกินความสามารถของพวกเขา แต่ด้วยเทคโนโลยีและเครื่องมือสุดเทพเกินคำบรรยายทำให้พวกเขาแก้คดีได้อย่างน่าทึ่ง และพวกเราก็ติดตามชมต่อไป

      แต่วันนี้ผมได้ดูซีรีย์เรื่องหนึ่งที่เป็นแนวสืบสวนเหมือนกัน แต่ทว่าพวกเขาไม่ได้ทำงานภายใต้กฏหมายและพวกเขาทำงานอย่างลับๆ โดยไม่ให้ใครรู้โดยอาศัยอุปกรณ์เพียงชิ้นเดียว คอยปราบปรามความชั่วร้ายภายใต้นครแห่งอาชญากรรม... ให้อารมณ์แบบ Batman หรือ The Dark Knight เลยทีเดียว แต่พวกเขาเป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้มีชุดเกราะหรืออุปกรณ์ขั้นเทพแต่อย่างใด

     ชื่อเรื่องนี้ก็คือ Person of Interest ครับ

   เรื่องย่อนี้ก็คือ หลังจากเหตุการณ์ 911 หรือเหตุการณ์ที่มีเครื่องบินพุ่งชนตึกเวิร์ดเทรนที่สหรัฐอเมริกา รัฐบาลอเมริกาได้อำนาจในการตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างที่ต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับความไม่สงบของประเทศ และ ฮาโรลด์ ฟินช์ ได้สร้างอุปกรณ์ที่เรียกว่า เดอะ แมชชีน ที่สามารถตรวจสอบพฤติกรรมของผู้คนได้ แต่ทว่ารัฐบาลจะจัดการเฉพาะผู้คนที่มีผลต่อความมั่งคงของประเทศเท่านั้น ส่วนคนอื่นๆพวกเขาจะไม่สนใจ ทำให้ฟินซ์ต้องออกมาจัดการเองกับทีมของเขา...

   เนื้อเรื่องของซีรีย์ชุดนี้ก็มีประมาณนี้แหละครับ โดยเดอะแมชชีนนั้นจะตรวจสอบผ่านกล้องวงจรปิดทุกตัวบนนิวยอร์คที่ไม่ต้องบอกก็รู็ว่ามีทุกที่นั่นแหละครับ แล้วส่งหมายเลขประกันสังคมของ 'ผู้ต้องสงสัย' ออกมา ซึ่งไม่มีทางรู้ได้เลยว่าพวกเขาจะตกเป็นเหยื่อหรือเป็นผู้กระทำความรุนแรงเอง ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของประเอกอย่าง จอห์น รีส ที่เป็นอดีตสายลับและเบื้องหลังลึกลับพอๆกับฟินซ์ รีสต้องทำหน้าที่จับตาดูเป้าหมายและคอยดูว่าเขาคือเหยื่อหรืออะไรกันแน่ และผู้ต้องสัยแต่ละคนก็เป็นประชาชนปกติธรรมดาที่เห็นได้ทั่วไปในนิวยอร์คนั่นแหละครับ

       ความสนุกของเรื่องนี้ก็คือการสืบหาว่าหมายเลขที่เดอะแมชชีนส่งมานั่น เป็นเหยื่อหรือผู้กระทำกันแน่ เพราะว่าพวกเราไม่มีทางรู้ได้เลย แม้กระทั่งตัวละครในเรื่องเองก็ตาม ทำให้มีการหักมุมกันหลายต่อหลายตอน และแทบจะทุกตอนจนเราชักจะไม่แน่ใจแล้วว่าใครเป็นคนดีหรือเลวกันแน่ และยังทิ้งปมปริศนาไว้หลายต่อหลายอย่าง บวกกับตัวละครอย่างรีสนั้นให้อารมณ์แบบ Batman มากๆ โดยเฉพาะความหล่อและความเทพที่ไม่เป็นรองใคร แถมแกยังโดนผู้ร้ายกระทืบบ่อยๆด้วยเช่นกัน บวกกับนายตำรวจอย่าง ฟัสโก้ ที่เป็นตำรวจคอรัปชั่นที่โดนติดร่างแหมาช่วยเหลือพวกรีสด้วยอีกคน และนอกจากนั้นพวกเขาต้องหนีการตามล่าของกรมตำรวจหลายนายที่พยายามจะจับตัวเขา

      หากดูจากคนเขียนบทแล้ว ไม่แปลกใจว่าทำไมซีรีย์ชุดนี้ให้อารมณ์แบบหนัง the Dark Knight ขนาดนี้ เพราะคนเขียนบทคือโจนาธาน โนแลน น้องชายของคริสโตเฟอร์ โนแลน (ที่กำกับแบ็ทแมนฉบับรีบู๊ตทั้งสามภาค) เป็นผู้นำในการสร้างสรรค์ โจนาธานผู้นี้คือคนที่มีส่วนร่วมในการเขียนบทให้กับหนังเทพๆ หลายเรื่องของคริสโตเฟอร์ โนแลน ไล่มาตั้งแต่ Memento, The Prestige และที่สำคัญเลยก็คือ The Dark Knight และ The Dark Knight Rises นั่นจึงไม่แปลก ถ้าลักษณะตัวละครหลักของซีรีย์เรื่องนี้จะชวนให้นึกถึงแบ็ทแมนอยู่กลายๆ

     ช่วงที่ผู้เขียนเขียนอยู่นี้ เนื้อเรื่องของไปไกลถึง SS2 แล้ว เมื่อพวกเขาพบกับศัตรูที่ร้ายกาจและแฮ็คเกอร์มือฉมังที่คอยเล่นงานพวกเขาอยู่ตลอดเวลา และปมปริศนาหลายๆอย่างคอยๆจะคลี่คลายออกมาบางแล้ว แต่ก็ยังคงกั๊กส่วนใหญ่ไว้เหมือนเดิม...

      สรุปซ๊รีย์ชุดนี้นั่นควรค่าแก่การรับชมครับ สำหรับผู้ที่ชอบแนวสืบสวนและชอบหนัง the Dark Knight แล้วละก็ คุณไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง





..........................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น