วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Sherlock Homes ยอดนักสืบสุดคลาสสิกในยุคปัจจุบัน






"เมื่อเราตัดประเด็นข้อที่อาจเป็นไปได้หมดแล้ว
ข้อที่เหลือถึงไม่น่าจะเป็นได้อย่างไรมันก็คือ...
ความจริง"



...........................................



ประโยคสุดคลาสสิกจากยอดนับสืบของโลกที่ชื่อว่า'เชอร์ล็อค โฮล์มส์'เขาเป็นตัวละครที่ใครๆก็รู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี ด้วยการสืบสวนอันเป็นเอกลักษณ์และสมองที่ชาญฉลาดจนเหลือเชื่อ จนสามารถวิเคราะห์ทุกอย่างได้แม้กระทั่งเห็นเพียงแวบเดียว บวกกับเนื้อเรื่องที่สนุกสนานและเข้มข้นน่าติดตาม ต้องขอบคุณเซอร์อาเธอร์ โคนัน ดอยล์ที่สามารถแต่งเรื่องราวที่สนุกสนานขนาดนี้ได้และเป็นที่จดจำของคนทั่วโลกแม้เวลาจะผ่านมา 200 ปีแล้วก็ตามที

แน่นอนว่าเชอร์ล็อค โฮล์มส์นั้นย่อมมีการนำมาทำใหม่ในรูปแบบต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพยนต์
, ซีรี่ย์ ,การ์ตูน และอื่นๆอีกมากมาย ทำให้พวกเรารู้จักโฮล์มส์กันทุกคนแม้จะไม่เคยอ่านฉบับนิยายดั้งเดิมเลยก็ตาม (ฉบับดั้งเดิมมีจัดจำหน่ายอยู่นะครับ เป็นของสำนักพิมพ์แพรวสำนักพิมพ์ที่เป็นแบบแปลครั้งแรกจริงๆทำให้ภาษานั้นเก่ามากจนผู้เขียนอ่านเองก็ต้องทบทวนหลายรอบกว่าจะเข้าใจ) และคราวนี้ผู้เขียนได้ดูซีรีย์ชุุดหนึ่งของ BBC ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นซีรี่ย์ของเชอร์ล็อค โฮล์มส์ อย่างแน่นอน แต่ทว่าเป็นเชอร์ล็อคในยุค 2010 นะครับ

เรื่องย่อตอนแรกเริ่มต้นโดย จอห์น วัตสัน อดีตทหารผ่านศึกที่ถูกยิงจนต้องเดินกะเผลกๆไปมา ทั้งๆที่ตัวเขานั้นไม่ได้พิการอะไรเลยแม้แต่น้อย เขานั้นอาศัยอยู่ในลอนดอน เขาได้พบเพื่อนเก่าคนหนึ่งและเพื่อนคนนั้นก็ได้เสนอว่ามีห้องเช่าเหลืออยู่และมีคนต้องการจะเช่าเหมือนกันพอดี จอห์นสนใจมากและยอมรับข้อตกลงนั้นและได้ไปยังห้องแลปแห่งหนึ่งเพื่อไปหาเพื่อนร่วมห้องคนที่ว่านี้

ณ ห้องแลป เชอร์ล็อค โฮล์มส์ กำลังทำการตรวจสอบศพอยู่(ด้วยการเอาไม้ฟาดศพอย่างแรงหลายครั้ง)ทันทีที่เขาเห็นจอห์นเขาก็สามารถบอกได้ทันทีว่าจอห์นนั้นเป็นอดีตทหารที่ถูกส่งไปอัฟกานิสถาน และนอกจากนั้นยังกล่าวด้วยว่าสาเหตุที่เขาเดินกะเผลกนั้นน่าจะมาจิตใจไม่ใช่ร่างกาย ซึ่งจอห์นเองก็อึ้งทันที แต่พอเขาถามว่าเชอร์ล็อครู้ได้อย่างไรเจ้าตัวก็อธิบายอย่างละเอียด(ไปดูในซีรีย์เองนะครับมันละเอียดจนจำไม่ได้)

ต่อมาตัดมาที่ลอนดอนที่เกิดคดีประหลาดขึ้น โดยมีการฆ่าตัวตายเกิดขึ้น 4 ครั้งและแต่ละครั้งล้วนตายด้วยการกินยาพิษเหมือนกันทั้งหมดทำให้กรมตำรวจงุนงงและประหลาดใจ เชอร์ล็อคจึงโชว์ความเก่ง(เกรียน)ด้วยการส่งข้อความเข้าโทรศัพท์มือถือทุกคนในงานแถลงข่าวว่านี่ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย ทำให้สารวัตรเลสเตรดต้องหงุดหงิดอีกครั้ง จนกระทั่งเกิดคดีที่ 5 ขึ้นโดยที่สถานการณ์เหมือนกันทั้งหมด
เชอร์ล็อคจึงถูกเรียกตัวไปยังที่เกิดเหตุอีกครั้ง แต่เขาได้พาจอห์นเพื่อนใหม่ไปด้วย ระหว่างทางโฮล์มส์ได้สันนิษฐานเกี่ยวกับประวัติของพี่ของจอห์นผ่านทางโทรศัพท์มือถือและถูกต้องหมดทุกอย่าง(สำหรับแฟนๆของโฮล์มส์คงจะทราบดีว่าในนิยายนั้นจะเป็นนาฬิกาพกครับไม่ใช่มือถือ)ทำให้จอห์นอึ้งไปอีกครั้ง

พอถึงที่เกิดเหตุก็พบว่ามีคำว่า Rachel ซึ่งเป็นภาษาสเปนแปลว่าการแก้แค้น และโฮล์มส์ก็ค้นพบสิ่งที่ควรจะมีกลับไม่มีในกระเป๋าของหญิงผู้ตายนั่นก็คือโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าเงิน ทำใหโฮล์มส์ค้นพบเงื่อนงำบางอย่างเข้าและลงมือสืบสวนโดยลากจอห์นที่ไม่รู้อีโน่อีเน่ไปด้วย แต่ระหว่างทางกลับจอห์น กลับถูกบังคับให้ไปพบกับชายปริศนาคนหนึ่ง และเขาได้เสนอเงื่อนไขบางอย่างให้กับจอห์น... บวกกับโฮล์มส์ที่ต้องไขปริศนาของคนร้ายรายได้ให้จงได้แม้ว่าตัวเขาจะต้องไปเป็นเหยื่อรายที่ 6 ก็ตาม!?

โฮล์มส์จะสามารถไขคดีได้หรือไม่? ,ใครคือคนร้ายในคดีฆาตกรรมนี้? ,ชายที่วัตสันพบคือใคร? และใครคือผู้ที่ชักใยเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกันแน่!?

ทั้งหมดนี้คือเรื่องย่อของซีรีย์ชุดSherlock Holmesซึ่งเป็นผลงานสร้างของ BBC ครับ ซีรี่ย์ชุดนี้มีทั้งหมด 3 ตอน(ใช่ครับอ่านไม่ผิดหรอก 3 ตอน) ซึ่งแต่ละตอนมีความยาวประมาณชั่วโมงครึ่งได้ครับ ส่วนเรื่องความสนุกนั้นบอกได้ครับว่าสนุกมาก! จนไม่น่าเชื่อว่าผู้เขียนบทจะสามารถนำนิยายดั้งเดิมมาประยุกต์ใช้ได้ขนาดนี้โดยที่ไม่ทำให้ใจความสำคัญในนิยายหายไป และสามารถเติมเต็มสิ่งใหม่ๆโดยที่ผู้อ่านนิยายมาแล้วไม่รู้สึกว่ามันแปลกตาไปแต่อย่างใด บวกกับมุขตลกที่สอดแทรกในอยู่ในเรื่องตลอดเวลาทำให้ซีรี่ย์ชุดนี้มีเสน่ห์เป็นของตัวเอง

นักแสดงนำที่รับบทโฮล์มส์นั้น ได้ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบท ที่เป็นนักแสดงหนุ่มชื่อดังทางอังกฤษที่กำลังฮิตมากในขณะนั้นมารับบทซึ่งเขาก็สามารถแสดงเป็นโฮล์มส์ได้ดีอย่างเหลือเชื่อ ด้วยหน้าตาที่ดูหยิ่งยโสและสามารถแสดงท่าทางเกรียนได้อย่างเป็นธรรมชาติ บวกกับการรัวคำพูดตอนที่โฮล์มส์วิเคราะห์ทำให้เราอึ้งว่าแกจำบทได้ยังไง ซึ่งทำให้ตัวละครโฮล์มส์เว่อร์ชั่นนี้ดูน่าหมั่นไส้กว่าเวอร์ชั่นที่แสดงโดยโรเบิร์ท ดาวน์นี่ จูเนียร์เสียอีก(ทางRDJนั่นโฮล์มส์จะดูท่าทางฉลาดและอวดเก่งหน่อยๆแต่ก็ดูไปก็น่ารักดีครับโดยเฉพาะเวลาอยู่กับหมอวัตสัน ผิด!) ไม่แปลกใจที่ตัวละครในเรื่องจะเอือมระอากับนิสัยของพี่แกจริงๆ

ส่วนทางด้านหมอวัตสันนั้นได้ มาร์ติน ฟรีแมน นักแสดงนำจากหนัง The Hobbit นั่นเอง ซึ่งเขาสามารถแสดงเป็นหมอวัตสันได้ดีพอควร และสามารถรับส่งบทได้ดีเยี่ยม เสน่ห์ชุดหนึ่งของนวนิยายเชอร์ล็อค โฮล์มส์นั้นก็คือการที่วัตสันกับโฮล์มส์นั้นอยู่ด้วยกันและสนทนากันครับ เวลาสองคนนี้คุยกันทีไรมักจะมีบทสนทนาที่เหมือนชวนขบขันอยู่เสมอ โดยที่โฮล์มส์นั้นมักจะคอยเถียงแบบเด็กๆและเอาแต่ใจในขณะที่หมอวัตสันต้องคอยควบคุมอารมณ์และโต้กลับด้วยเหตุผลให้กับยอดนักสืบสุดเกรียนนี้(สำหรับใครที่ดูเวอร์ชั่นภาพยนต์จะต้องอมยิ้มกับฉากเหล่านี้แน่นอน)

ตัวละครอื่นๆก็แสดงได้ดีครับ ทำให้เรื่องนี้ดูเพลินและสนุกสาน ส่วนจะเห็นได้เลยว่าในซีรี่ย์ชุดนี้นั้นจะมีเทคโนโลยีสมัยใหม่มาเกี่ยวข้องด้วยเยอะมากๆ อาทิ เชอร์ล็อคที่ใช้ไอโฟนในการหาข้อมูลทำให้เราเห็นเชอร์ล็อคกดโทรศัพท์ยิกๆไปตลอดทั้งเรื่อง และอุปกรณ์ที่เราสามารถพบเห็นได้ในสมัยนี้ก็ปรากฏอยู่ในเรื่องและช่วยดำเนินเรื่องไปด้วยเช่นกัน

สรุปง่ายๆก็คือสำหรับแฟนๆของเชอร์ล็อค โฮล์มส์ นี่เป็นซีรี่ย์ที่คุณพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด! และสำหรับคนทั่วไปนี้ก็เป็นซีรีย์ที่ดูสนุกมากๆอีกหนึ่งเรื่องครับ

ปล. ช่วงที่ผมเขียนอยู่นี่ซีรีย์ชุดนี้ก็ได้จบซีซั่นสองไปแล้วนะครับ
ปลล. อยากสปอยล์นะครับ แต่ไม่อยากเล่า 55+


..............................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น